คำปรารภ

คำปรารภ
รูปนี้ถ่ายเมือวันที่ไปเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรเมื่อประมาณมีนาคม 2553 ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต...แต่แล้วชีวิตก็หักเหอีกครั้ง เมื่อฉันตัดสินใจเรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาวิชาชีพครู หลายคนบอกฉันว่าดี หลายคนบอกว่าฉันถอยหลังเข้าคลองหรือเปล่า แต่สำหรับตัวฉันเองฉันคิดว่าไม่ว่าจะจบสาขาใดมาก็ตาม สิ่งที่ควรจะต้องศึกษาเพิ่มเติมด้วยอีกเรื่องหนึ่ง ก็คือ วิชาว่าด้วยความเป็นครู แหละฉันก็ยังคงเชื่อมั่นว่าฉันไม่ได้คิดผิด ฉันเป็นผู้ที่ชอบเรียนหนังสือทุกรูปแบบไม่ว่าเป็นเรื่องใด ฉันสนใจและเห็นว่าเป็นประโยชน์ทั้งหมด ฉันเคยเป็นนักเรียนผ่านระบบการเรียนแบบ e-learning Virtual classroom ตั้งแต่ประมาณปี 47-49 เรียนผ่าน CAI /Multimedia ผ่านสื่อหลายชนิด บ่อยครั้งก็ฟังเทศน์ออนไลน์ บางครั้งก็ไปนั่งฟังพระเทศน์ หรือผู้เฒ่าผู้แก่ หรือแม้กระทั่งเด็กเล็กๆ ซึ่งบางครั้งก็สามารถแนะนำทางออกของปัญหาต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจและเป็นประโยชน์ได้ไม่น้อย ถ้าถามว่าฉันจะเรียนอะไรต่ออีกไหม แน่นอนว่าน้ำหน้าอย่างฉันคงเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะไม่เรียน ว่าแต่ว่าจะเรียนอะไร ปริญญาเอก หรือหลักสูตรใดที่ฉันสนใจ ก็คงจะต้องให้จบหลักสูตรนี้ก่อนซึ่งก็ใกล้ความจริงเข้ามาแล้ว ไม่ต้องให้กำลังใจก็ได้ แต่ถ้าจะให้กำลังใจกันก็ขอขอบคุณนะค่ะ แต่คนเราถ้ามัวแต่รอกำลังใจจากผู้อื่นอยู่บางครั้งอาจหมดกำลังใจไปก่อนก็ได้ เพราะผู้คนสมัยนี้นอกจากไม่ค่อยให้กำลังใจกันแล้ว ยังทำร้ายจิตใจบั่นทอนกำลังใจของผู้อื่น เห็นกันบ่อยจนชินหูชินตา ฉันคงเก็บความทรงจำส่วนที่น่าประทับใจของการเรียน ป.บัณฑิตไว้อย่างแน่นอน มันจะกลายเป็นอดีตในไม่ช้านี้แล้ว สำหรับในอนาคตคงจะนำความรู้นี้ไปใช้ในสิ่งที่ดีและท่านอาจารย์อาจคาดไม่ถึง... แต่อย่างเสีย จะไม่ให้ใครมาตำหนิได้ว่าจบ ป.บัณฑิตมาได้อย่างไร มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึงต้องไม่เสียใจที่เคยรับคนอย่างฉันเป็นนักศึกษาที่นี้..เพราะอย่างน้อยฉันก็เคยได้รับเงินทุนการศึกษาโครงการเรียนดีมีน้ำใจ ถึงไม่มากด้วยจำนวน หากแต่ว่ามากด้วยน้ำใจ แต่ถ้าจะให้ดีขอทุนเรียนปริญญาเอกด้วยได้ไหมค่ะ มีทุนของตนเองอยู่เหมือนกันแต่เกรงว่าจะไม่พอ ถ้ามหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึงจะให้โอกาสก็คงจะน้อมรับด้วยความยินดียิ่ง และถ้าไม่ให้อย่างไรเสียก็ขอขอบคุณแต่ไม่ง้อนะค่ะ ฝังไว้ใต้ถุนบ้านอีกตั้งหลายไห...คร้า...

ดังดอกไม้บาน

วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

ศธ.เล็งใช้การศึกษาสร้างให้เด็กตระหนักถึงหน้าที่พลเมือง

รมว.ศธ.เผยจะหยิบยกโครงการเสริมสร้างประชาธิปไตย โดยใช้การศึกษาสร้างพลเมืองมาเป็นนโยบายสำคัญพัฒนาให้คนได้ตระหนักในหน้าที่-เข้าใจระบบการปกครองประชาธิปไตยที่ถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (24 พ.ค.) ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตรวจเยี่ยมโรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 เพื่อให้กำลังใจแก่นักเรียน ผู้ปกครอง ครู-อาจารย์ และเจ้าหน้าที่ ในวันเปิดภาคเรียนวันแรกของปีการศึกษา 2553
รมว.ศธ. กล่าวว่า ได้เดินทางมาที่โรงเรียนนี้ซึ่งเป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรก หลังจากที่ได้เลื่อนจากวันที่ 17 พฤษภาคม 2553 เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมในกรุงเทพฯ เพื่อต้องการมาให้กำลังใจ ให้การช่วยเหลือแก้ไขปัญหาและเยียวยาต่อไป  
สำหรับการแก้ไขปัญหาระยะสั้นนั้น นายชินวรณ์ กล่าวว่า จะมีการดูแลแก้ไขปัญหาเรื่องความปลอดภัย โดยจะให้ศูนย์เสมารักษ์ได้ประสานร่วมกับภาคีเครือข่าย เช่น กรุงเทพมหานคร อาสาสมัคร อปพร. สมาคมผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษา ฯลฯ โดยจะจัดให้ลูกเสือ หรือโรงเรียนขนาดใหญ่ เข้าไปช่วยดูแลเรื่องความสะอาดปลอดภัยในโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบด้วย นอกจากนั้นยังต้องมาดูแลการสอนชดเชย ซึ่ง ศธ.พร้อมจะจัดให้มีการสอนพิเศษหรือ Tutor Channel ต่อไปด้วย ส่วนในระยะยาว จะดูถึงผลกระทบทางด้านจิตใจของนักเรียน เช่น โรงเรียนนี้มีนักเรียนส่วนหนึ่งมาจากชุมชนบ่อนไก่ โดยโรงเรียนจะมีการแนะแนวเป็นรายบุคคล หาแนวทางการเชื่อมโยงไปยังผู้ปกครอง เพื่อให้ได้รับการเยียวยาทางด้านจิตใจเช่นกันด้วย พร้อมกับจะมีการฟื้นฟูสถานศึกษา
“นอกจากนี้ ศธ.จะได้หยิบยกโครงการเสริมสร้างประชาธิปไตย โดยใช้การศึกษาเพื่อสร้างพลเมืองมาเป็นนโยบายสำคัญในรากฐานการพัฒนา ให้คนได้คนได้ตระหนักในหน้าที่ เข้าใจระบบการปกครองประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ให้การศึกษาเป็นกระบวนการกล่อมเกลา ให้เกิดการใฝ่รู้ใฝ่เรียน การอยู่ร่วมภายในสังคม ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องมีกิจกรรมการฝึกอบรม และกิจกรรมอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง” รมว.ศธ. กล่าว และว่า สำหรับนักเรียนที่เข้าร่วมชุมนุมนั้น โรงเรียนจะต้องไปดูแลติดตาม สอนเสริมให้เข้าใจสถานการณ์ที่ต่างๆ เกิดขึ้น รวมทั้งประสานกับหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อร่วมดูแลในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า  ยังได้รับทราบว่ามีโรงเรียนเอกชนในเขตสาทรอีก 3 โรงเรียน ที่จะเลื่อนไปเปิดภาคเรียนในวันที่ 31 พฤษภาคม 2553 เพราะการคมนาคมยังไม่สะดวกนัก และทางโรงเรียนต้องการดูแลความปลอดภัยของนักเรียน รวมทั้งได้มีเวลาเตรียมการมากขึ้น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น